The Legend of Hercules
ในยุคสมัยที่อารยธรรมกรีกยังรุ่งเรือง เฮอร์คิวลิส (เคลแลน ลัตซ์) เจ้าชายหนุ่มรูปงามใช้ชีวิตโดยไม่รู้ว่าบิดาที่แท้จริงของเขาคือใคร เขามีความต้องการในชีวิตเพียงอย่างเดียว นั่นคือการครองรักกับ ฮีบี เจ้าหญิงแห่งเกาะครีต ที่กำลังถูกจับให้แต่งงานกับพี่ชายของเขาเพื่อขยายอำนาจปกครอง แต่หลังจากที่ เฮอร์คิวลิส ได้รับรู้ถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง และเป้าหมายที่สำคัญยิ่งกว่าความรัก เขาต้องเลือกที่จะเดินตามพรมลิขิต ซึ่งก็ให้เขากลายเป็นวีรบุรุษที่มีชื่อเสียงที่สุดในตำนานเทพเจ้ากรีก
Director: Renny Harlin
Stars: Kellan Lutz, Gaia Weiss, Scott Adkins, Liam Garrigan
99 min - Action/Adventure - 13+
นักแสดงไม่คุ้นหน้าสักคน หรือฉันโง่ไม่รู้จักเขาเองหว่า? = = ถ้ากล่าวรวมๆ The Legend of Hercules ถือว่าทำได้ดี "แค่ในระดับหนึ่ง" แต่ยังไม่ถึงขั้นสุด ที่เจ๋งจริงๆ คือภาพและฉากต่อสู้ที่มันมาก ได้อารมณ์สุดๆ หลายๆ ฉากเช่นลานประลอง ทำได้สวย เหมือนเข้าไปอยู่ในยุคนั้นจริงๆ น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องค่อนไปทางน่าเบื่อ ดำเนินเรื่องง่ายๆ ทำให้เดาตอนต่อไปได้ง่ายๆ ตามไปด้วย ยังดีที่ไม่ออกทะเล ทุกอย่างพุ่งไปตรงที่พ้อยท์ของเรื่อง มีการเล่าเรื่องตั้งแต่ความเป็นมาของเฮอร์คิวลิสเรื่อยมา ตั้งแต่เปิดตำนานจนปิดตำนานด้วยเวลาเพียง 99 นาที ทำให้การเดินเรื่องรวดเร็วและกระชับ ไม่ซับซ้อน ไขทุกคำถามไม่มีข้อติดค้างในตอนจบของเรื่องไม่มีข้อกังขา ซึ่งตรงนี้ถือว่าทำได้ดี
'มนุษย์ทุกคนล้วนมีชะตากรรมที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดมาให้ เฮอร์คิวลิส เจ้าชายผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือครองรักกับฮีบี เจ้าหญิงแห่งเกาะครีต ทว่าเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อการนั้น เขาเกิดมาพร้อมโชคชะตาที่เทพซูสมอบให้ สมรภูมิรบจะทำให้เฮอร์คิวลิสกลายเป็นวีรบุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก' เนื้อเรื่องแตกต่างจากตำนาน 'ค่อนข้างมาก' เฮอร์คิวลิสเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้เก่งโอเวอร์ เขาเป็นเพียงนักรบผู้มีสิทธิ์แพ้ชนะในสังเวียน ทำให้คนดูพลอยลุ้นและคอยเชียร์ตามไปด้วย แม้เนื้อเรื่องจะแปลกไปจากเดิม แต่กลับดำเนินเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ทำให้เดาตอนต่อไปได้ง่าย ซึ่งอาจไม่ค่อยถูกใจคนที่ชอบดูพล็อตเรื่องสักเท่าไหร่
การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
แก้ตัวจากพล็อตเรื่อง The Legend of Hercules มีฉากต่อสู้อยู่ระดับที่เรียกได้ว่า 'มันสุดยอด' จัดเต็มกว่าชั่วโมงครึ่ง ทั้งการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และสมรภูมิรบ แต่ละฉากเข้าถึงอารมณ์ได้ดี และทำให้คนดูลุ้นตามไปด้วยเสมอ อีกทั้งเอฟเฟคที่ทำออกมาได้สวยราวกับมีพลังพิเศษจริง ถูกอกถูกใจคอหนังบู๊เป็นพิเศษ นักแสดงสื่ออารมณ์ออกมาได้ค่อนข้างดี ความสุข ความเศร้า ความแค้น ความเกลียดชัง ถูกเค้นออกมาจากสีหน้าและท่าทางของนักแสดง จัดว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง
Hercules: The Legend Begins: 7/10



